เปิดตำนานสมบัติในตำนานของญี่ปุ่น
เปิดตำนานสมบัติในตำนานของญี่ปุ่น
The Imperial Regalia of Japan (三種の神器, Sanshu no Jingi / Mikusa no Kandakara) รู้จักกันดีในชื่อสมบัติในตำนานทั้ง 3 ของญี่ปุ่น ประกอบด้วย
- ดาบคุซานางิ หรือดาบอาเมโนะ มุราคุโมะ/ the sword Kusanagi (草薙劍)
เป็นตัวแทนดวงดาวแห่ง คุณธรรม,ความกล้าหาญ
ปัจจุบันอยู่ในศาลเจ้า อัตสุ(Atsuta)ในจังหวัดนาโงย่า
- กระจกยะต๊ะ / the mirror Yata no Kagami (八咫鏡)
เป็นตัวแทนดวงอาทิตย์แห่ง ปัญญา
ปัจจุบันอยู่ในพิพิธพันธ์แห่งชาติเกียวโตในกรุงเกียวโต
- อัญมณี ยาซาคานิ หรือเต็มๆคือสร้อยสังวาล ยาชาคาเนโนะ/ the jewel Yasakani no Magatama (八尺瓊曲玉)
เป็นตัวแทนดวงจันทร์แห่ง ความเมตตา,กรุณา
ปัจจุบันอยู่ในศาลเจ้า อิเสะในจังหวัดมิเอะ
สมบัติในตำนานของญี่ปุ่นถ้าเทียบกับประเทศเราก็น่าจะเป็น เครื่องกกุธภัณฑ์ที่จะใช้ในการประกอบพิธีขึ้นครองราชซึ่งครั้งหลังสุดที่นำออกมาคือพิธีขึ้นครองราชของจักรพรรดิ อาคีฮิโตะ (Akihito in 1989 and 1993)
ในตำนานชื่อกันว่าสมบัติเหล่านี้มาจากเทพต้นตระกูลของญี่ปุ่น ซุ ซาโนะโอะ โนะ มิโกโตะซึ่งเป็นน้องของเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ อะมะเทราสุ(Amaterasu)เมื่อครั้งที่มิโกโตะพรั้งมือคนสนิทของอามาเทราสุตาย ทำให้ อะมะเทราสุโมโหและหนีเข้าไปซ่อนตัวในถ้ำทำให้โลกตกอยู่ในความมืดจึงต้องให้ เทพธิดาร่ายรำโดยใช้ กระจก ยาต๊ะแขวนไว้ที่ปากถ้ำและสวมสร้อยสังวาล ยาชาคาเนโนะ พออามะเทราสุสงสัยโผล่หน้าออกมาดูก็ดึงออกมาจับมัดซะแต่ก็ได้มอบดาบ คุซานางิให้เพื่อเป็นการขอโทษ
ส่วน ตำนานดาบคุซานางิ มาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับว่าครั้ง หนึ่ง ซุซาโนโอะบังเอิญได้พบกับสองตายายและสาวสวยร้องไห้อยู่..พอถามร้องไห้ทำไม? ตายาย (ซึ่งก็เป็นเทพเหมือนกัน) บอกว่ามีลูก 8 คน แต่พอถึงวันนึงของทุกปี จะมีปีศาจงูยักษ์แปดหัวแปดหางที่ชื่อยามาตะโนะโอโรจิ มากินลูกไปทีละคนทุกปี.. จนเหลือลูกสาวคนเดียว แล้ววันนี้ก็ถึงวันที่ว่าแล้ว.. โอโรจิจะต้องมากินลูกคนสุดท้ายนี้แน่..จึงอาสากำจัดให้โดยต้องแลกกับลูกสาว คนสุดท้อง โดยใช้วิธีจัดเตรียม เหล้าไว้หลอกให้โอโรจิกินและรอให้เมาทั้งแปดหัวก่อน แล้วอาศัยตอนที่เมาหลับนั่นจัดการอย่างเฉียบขาด.. แต่ตอนฟันหางของโอโรจิก็พบดาบคุซานางิเข้าโดยบังเอิญ
Credit: http://pirateonepiece.blogspot.com/2010/03/marine_30.html
The Imperial Regalia of Japan (三種の神器, Sanshu no Jingi / Mikusa no Kandakara) รู้จักกันดีในชื่อสมบัติในตำนานทั้ง 3 ของญี่ปุ่น ประกอบด้วย
- ดาบคุซานางิ หรือดาบอาเมโนะ มุราคุโมะ/ the sword Kusanagi (草薙劍)
เป็นตัวแทนดวงดาวแห่ง คุณธรรม,ความกล้าหาญ
ปัจจุบันอยู่ในศาลเจ้า อัตสุ(Atsuta)ในจังหวัดนาโงย่า
- กระจกยะต๊ะ / the mirror Yata no Kagami (八咫鏡)
เป็นตัวแทนดวงอาทิตย์แห่ง ปัญญา
ปัจจุบันอยู่ในพิพิธพันธ์แห่งชาติเกียวโตในกรุงเกียวโต
- อัญมณี ยาซาคานิ หรือเต็มๆคือสร้อยสังวาล ยาชาคาเนโนะ/ the jewel Yasakani no Magatama (八尺瓊曲玉)
เป็นตัวแทนดวงจันทร์แห่ง ความเมตตา,กรุณา
ปัจจุบันอยู่ในศาลเจ้า อิเสะในจังหวัดมิเอะ
สมบัติในตำนานของญี่ปุ่นถ้าเทียบกับประเทศเราก็น่าจะเป็น เครื่องกกุธภัณฑ์ที่จะใช้ในการประกอบพิธีขึ้นครองราชซึ่งครั้งหลังสุดที่นำออกมาคือพิธีขึ้นครองราชของจักรพรรดิ อาคีฮิโตะ (Akihito in 1989 and 1993)
ในตำนานชื่อกันว่าสมบัติเหล่านี้มาจากเทพต้นตระกูลของญี่ปุ่น ซุ ซาโนะโอะ โนะ มิโกโตะซึ่งเป็นน้องของเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ อะมะเทราสุ(Amaterasu)เมื่อครั้งที่มิโกโตะพรั้งมือคนสนิทของอามาเทราสุตาย ทำให้ อะมะเทราสุโมโหและหนีเข้าไปซ่อนตัวในถ้ำทำให้โลกตกอยู่ในความมืดจึงต้องให้ เทพธิดาร่ายรำโดยใช้ กระจก ยาต๊ะแขวนไว้ที่ปากถ้ำและสวมสร้อยสังวาล ยาชาคาเนโนะ พออามะเทราสุสงสัยโผล่หน้าออกมาดูก็ดึงออกมาจับมัดซะแต่ก็ได้มอบดาบ คุซานางิให้เพื่อเป็นการขอโทษ
ส่วน ตำนานดาบคุซานางิ มาจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับว่าครั้ง หนึ่ง ซุซาโนโอะบังเอิญได้พบกับสองตายายและสาวสวยร้องไห้อยู่..พอถามร้องไห้ทำไม? ตายาย (ซึ่งก็เป็นเทพเหมือนกัน) บอกว่ามีลูก 8 คน แต่พอถึงวันนึงของทุกปี จะมีปีศาจงูยักษ์แปดหัวแปดหางที่ชื่อยามาตะโนะโอโรจิ มากินลูกไปทีละคนทุกปี.. จนเหลือลูกสาวคนเดียว แล้ววันนี้ก็ถึงวันที่ว่าแล้ว.. โอโรจิจะต้องมากินลูกคนสุดท้ายนี้แน่..จึงอาสากำจัดให้โดยต้องแลกกับลูกสาว คนสุดท้อง โดยใช้วิธีจัดเตรียม เหล้าไว้หลอกให้โอโรจิกินและรอให้เมาทั้งแปดหัวก่อน แล้วอาศัยตอนที่เมาหลับนั่นจัดการอย่างเฉียบขาด.. แต่ตอนฟันหางของโอโรจิก็พบดาบคุซานางิเข้าโดยบังเอิญ
Credit: http://pirateonepiece.blogspot.com/2010/03/marine_30.html
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น