Great Human



อเล็กซานเดอร์มหาราช (Alexander the Great)

พ่อของอเล็กซานเดอร์มหาราชกล่าวว่า
"ลูกรัก เจ้าต้องแสวงหาอาณาจักรใหม่ให้ตัวเองเสียแล้ว มาซิโดเนียนี้เล็กเกินไปสำหรับเจ้า"

อริสโตเติลสอนอเล็กซานเดอร์มหาราชว่า
"เกียรติยศของกษัตริย์อยู่ในสนามรบ"
"การแสวงหาพระราชอำนาจโดยการขยายดินแดนไม่ใช่สิ่งผิด หากแต่เป็นความรับผิดชอบของผู้ที่ถือกำเนิดมาในสายเลือดขัตติยา"

อเล็กซานเดอร์มหาราชกล่าวว่า
พระองค์เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของโลกและได้จารึกพระนามของพระองค์ไปในทุกที่ที่ทรงกรีธาทัพผ่านในช่วงระยะเวลา 13 ปี พระองค์ทรงเป็นผู้นำทัพผ่านดินแดนต่างๆ แต่ไม่ใช่ในฐานะของผู้พิชิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นผู้นำอารยธรรมกรีกอันรุ่งเรืองไปเผยแพร่ยังดินแดนที่ป่าเถื่อนกว่า พระองค์จึงเป็นผู้สร้าง มิใช่ผู้ทำลายอย่างเดียว สมดังที่เคยตรัสไว้เป็นอมตะวาจาว่า "ผู้ใดยอมศิโรราบแก่กองทัพของข้า ผู้นั้นจะไม่มีสิ่งใดติเตียนชัยชนะของข้าได้เลย"

การเข้ายึดแต่ละเมืองนั้นพระองค์จะไม่ทำร้ายพลเมืองตลอดจนทรัพย์สิน กลับทรงปลดปล่อยให้เป็นอิสระ และตั้งคณะผู้ปกครองที่ได้รับเลือกขึ้นมาจากประชาชนให้ดูแลกันต่อไป โปรดให้ยกเลิกภาษี เมื่อทรงถูกถามว่าเหตุใดพระองค์จึงไม่เรียกร้องทรัพย์สินตอบแทนให้คุ้มค่า พระองค์ทรงตอบว่า "ข้ารังเกียจชาวสวนที่ตัดรากของพืชผลตัวเอง ทั้งๆ ที่เขาสามารถได้่ค่าตอบแทนมากกว่า ถ้าคอยเก็บเพียงใบและผลของพืชผักนั้น

ขณะที่ตั้งทัพอยู่ที่ไทร์นั้น อเล็กซานเดอร์ได้รับพระราชสาส์นจากดาริอุสขอยุติศึก โดยมีข้อเสนอว่าดาริอุสจะถวายทองคำ 1 หมื่นทาเลนท์ (ปัจจุบันมีค่าเท่ากับ 300 ล้านเหรียญสหรัฐ) พร้อมกับพระราชธิดาให้อภิเษกกับอเล็กซานเดอร์และดินแดนทั้งหมดทางฝั่งตะวันตกของแม่นำ้ยูเฟรติส ที่ปรึกษาทุกท่านแนะนำให้พระองค์ยอมรับเงื่อนไขนี้ แต่พระองค์ทรงปฏิเสธพร้อมกับกล่าวว่า "พระองค์คือ อเล็กซานเดอร์มหาราช พระองค์จึงไม่ทรงพอพระทัยเพียงแค่ ส่วนหนึ่ง ของทุกสิ่ง แต่ ทั้งหมด ต่างหากที่ทรงปราถนา"

ต้นฤดูใบไม้ผลิแห่งปี 326 ก่อนคริสตกาล อเล็กซานเดอร์นำทัพข้ามแม่นำ้สินธุ ได้สู้รบกับกองทัพปัญจาบและได้ชัยชนะอีกครั้ง พระองค์ตรัสถามกษัตริย์ของปัญจาบว่า "เจ้าต้องการให้ข้าทำเช่นไรกับเจ้า" "ปฏิบัติต่อข้าเยี่ยงกษัตริย์" โพรัส กษัตริย์ปัญจาบตอบอย่างห้าวหาญ ด้วยเหตุนี้เอง อเล็กซานเดอร์จึงทรงยกโพรัสให้ครองบัลลังก์ปัญจาบเช่นเดิม ทั้งสองได้กลายเป็นมิตรต่อกัน

พระนามของอเล็กซานเดอร์ไม่เคยถูกลบเลือนไปตามเขตแดนอาณาจักรของพระองค์ ความยิ่งใหญ่ของอเล็กซานเดอร์เป็นสิ่งหนึ่งที่จะดำรงอยู่ตลอดกาล สมพระทัยของพระองค์ ซึ่งเคยตรัสไว้กาลครั้งหนึ่งว่า "มันเป็นสิ่งน่าชื่นชมเหลือเกินที่ได้มีชีวิตอยู่เยี่ยงผู้กล้าเพื่อที่จะตาย และทิ้งไว้เบื้องหลังความทรงจำอันเป็นนิรันดร์"



มาร์โค โปโล (Marco Polo)

"ฉันไม่ได้เล่าเรื่องราวอีกครึ่งหนึ่งที่ได้พบ เพราะฉันรู้ว่าเล่าไปก็ไม่มีใครเชื่อ
(I did not tell half of what I saw for I knew I would not be believed)"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คาโน่ จิโกโร่ ผู้ก่อตั้งวิชายูโด

ปัญหาสายตา

วิธีติดตั้ง V-Ray for SketchUp 8 (V-Ray 1.48.89)